ปลอดภัยทุกครั้งก่อนการเดินทางด้วยการตรวจสอบสภาพรถยนต์ด้วยตัวเอง เพิ่มความอุ่นใจในทุกครั้งเมื่อต้องมีการเดินทางไกล และช่วยป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนแบบไม่คาดฝัน
เมื่อต้องมีการใช้รถยนต์ในเดินทางไกล หรือเมื่อไม่ได้ใช้รถยนต์เป็นระยะเวลานานแล้วต้องกลับมาใช้งานอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางผู้ใช้รถควรตรวจสอบสภาพรถยนต์ก่อนการใช้งาน ว่ามีส่วนใดที่เสียหายหรือไม่
โดยสามารถตรวจสอบสภาพรถยนต์ด้วยตัวเองได้ ตามวิธีการดังนี้
ตรวจสอบแบตเตอรี่
ตรวจสอบแบตเตอรี่รถยนต์ว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ เนื่องจากแบตเตอรี่เป็นตัวจ่ายไฟให้กับรถยนต์ หากมีคราบขี้เกลือหรือคราบสกปรกบริเวณขั้วแบตเตอรี่ ความแน่นของขั้วแบต รวมถึงเช็คระดับน้ำกลั่นว่าอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่
ตรวจสอบน้ำมันเครื่อง
ตรวจสอบน้ำมันเครื่องว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ เพราะหากรถยนต์ไม่มีน้ำมันเครื่องคอยช่วยหล่อลื่นเครื่องยนต์ รถยนต์ก็อาจจะพังได้ โดยสามารถใช้ก้านวัดในตรวจสอบระดับน้ำมันเครื่อง และควรเผื่อน้ำมันเครื่องติดรถไว้อย่างน้อย 1 ลิตร เผื่อกรณีฉุกเฉิน
ตรวจสอบล้อและยางรถยนต์
ตรวจสอบสภาพการใช้งานของล้อและยางรถยนต์ว่าอยู่ในสภาพที่ดีและพร้อมใช้งานหรือไม่ โดยยางรถจะต้อง ไม่รั่ว ไม่ซึม ไม่แตกลายงา มีดอกยางเพียงพอ หากยางรถมีปัญหาก็จำเป็นต้องเปลี่ยนล้อรถยนต์ใหม่ และควรหมั่นเติมลมยางให้พอดีอยู่เสมอ
ตรวจสอบน้ำมันเบรกและระบบเบรก
ตรวจสอบน้ำมันเบรกว่าอยู่ในระดับที่พร้อมใช้งานหรือไม่ เนื่องจากระบบของน้ำมันเบรกเป็นระบบปิด ดังนั้น น้ำมันเบรกจะไม่ระเหยไปจนหมด หากพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับน้ำมันเบรก ให้ตรวจสอบจุดอื่นๆว่ามีรอยรั่วหรือไม่ และดำเนินการแก้ไขปัญหา รวมถึงตรวจสอบผ้าเบรกว่ามีปัญหาหรือไม่
ตรวจสอบระบบหล่อเย็น
ตรวจสอบระบบหล่อเย็นของรถยนต์ เพราะเกี่ยวข้องกับการระบายความร้อนภายในรถยนต์รวมถึงแอร์ ดังนั้นควรตรวจสอบหม้อน้ำว่าอยู่ในระดับที่ปกติหรือไม่ นอกจากนี้ควรตรวจสอบรอยรั่วของตัวหม้อและท่อยาง หากพบปัญหาให้รีบซ่อมแซมจุดนั้น
ตรวจสอบระบบไฟส่องสว่าง
ตรวจสอบไฟรถว่ามีตุดไหนที่มีปัญหาหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นไฟขาดหรือไฟบางดวงไม่ติด หรือหากกระจกครอบไฟแตกก็ควรรีบดำเนินการแก้ไขให้ทันท่วงที เพราะหากเดินทางในช่วงหน้าฝนหรือเกิดมีน้ำเข้าไปในสายไฟอาจทำให้เกิดการช็อตได้
ตรวจสอบช่วงล่าง
ตรวจสอบช่วงล่างของรถยนต์ โดยใช้วิธีการขับทดสอบบนถนนทางตรงและตั้งล้อตรง เมื่อขับไปให้สังเกตว่าพวงมาลัยตรงหรือไม่ หากเอียงไปทางซ้ายหรือขวาทางใดทางหนึ่งแสดงความช่วงล่างอาจมีปัญหา สามารถนำรถเข้าศูนย์เพื่อตั้งศูนย์ถ่วงหรือสลับยางใหม่ได้
ตรวจสอบอุปกรณ์ประจำรถยนต์ ทะเบียน และประกัน
นอกเหนือจากการตรวจสภาพการใช้งานของรถยนต์ อย่าลืมตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆภายในรถว่ามีครบหรือไม่ นอกจากนี้เรื่องของเล่มรถ ประกัน และทะเบียน ว่าถึงรอบที่ต้องนำรถเข้าศูนย์หรือต่อทะเบียนแล้วหรือไม่
ผู้เดินทางควรตรวจสอบสภาพการใช้งานของรถยนต์เป็นประจำ เพื่อความปลอดภัยในการเดินทาง หากพบว่ามีปัญหาที่ส่วนใดส่วนหนึ่งให้รีบดำเนินการแก้ไข เพราะหากปล่อยปัญหาไว้ อาจนำไปสู่อุบัติเหตุได้ในอนาคต
ภาพประกอบ : Freepik
วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานด้วย Analytics จาก Flare Dash แอปพลิเคชันที่ช่วยประเมินการขับขี่และให้คะแนนผู้ขับ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน
Comments