รวมเทคนิคการขับรถอย่างปลอดภัย แถมช่วยประหยัดน้ำมัน

16 ม.ค. 2566ยาว 1 นาที

ช่วงนี้บอกได้เลยว่าเป็นยุคที่เรียกได้ว่าข้าวยาก หมากแพง จะหยิบจับหรือใช้สอยอะไรก็ล้วนต้องใช้เงินใช้ทองไปหมด

ซึ่งหลายๆคนก็จะอยากประหยัดค่าใช้จ่ายลงบ้าง ดังนั้นวันนี้เราจะพาไปดูกันว่าทริคในการขับรถที่ปลอดภัยแถมยังช่วยประหยัดค่าน้ำมันนั้นมีอะไรบ้าง

1. ความเร็วในการขับขี่

การขับรถที่ดีนั้น ควรใช้ควรเร็วในการขับขี่ที่คงที่ หากมีการขับขี่ที่เร็วมากเกินไป ก็จะทำให้สิ้นเปลืองน้ำมันโดยใช่เหตุ หรือหากขับขี่ช้าเกินไปก็ไม่ได้ช่วยประหยัดน้ำมัน แถมยังจะทำให้ถึงที่หมายและเสียเวลาอีกด้วย ดังนั้นการขับขี่ด้วยเร็วที่คงที่จึงดีที่สุด สำหรับความเร็วที่ควรใช้ในการขับขี่นั้น ควรจะอยู่ที่ประมาณ 80 - 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง เพราะความเร็วในช่วงนี้ จะทำให้เครื่องยนต์มีประสิทธิภาพในการเผาผลาญเชื้อเพลิงได้ดีที่สุด ร่วมกับการใช้เกียร์ที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้รอบเครื่องยนต์สูงเกินไป และควรจะขับโดยรักษาความเร็วให้สม่ำเสมอไปตลอดทั้งเส้นทาง ก็จะสามารถช่วยลดอัตราการใช้เชื้อเพลิงได้

2. ออกตัวเบาๆ ไม่เร่งเกินความจำเป็น

การออกตัวแรง หรือรีบออกตัวนั้น บอกเลยว่าไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะจะส่งผลให้รถนั้นสิ้นเปลืองน้ำมันเป็นอย่างมาก รวมถึงหากมีพฤติกรรมการขับขี่แบบนี้ไปนานๆ ก็จะส่งผลให้เครื่องยนต์ รวมถึงอะไหล่รถยนต์สึกหรอได้ง่ายกว่าปกติอีกด้วย

3. งดเบรกบ่อยๆ หรือเบรกแบบกระทันหัน

รู้หรือไม่ว่า การเบรกอย่างหนักและเร่งความเร็วบ่อยๆนั้น จะเป็นการเพิ่มอัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงมากถึง 40% ซึ่งเป็นการเปลืองพลังงานอย่างแน่นอน รวมถึงเป็นการกระตุ้นในเครื่องยนต์ทำงานหนักเกินความจำเป็นอีกด้วย ดังนั้นควรมีการวงแผนในการขับขี่และรักษาระยะห่างในเหมาะสมจะดีที่สุด

4. ตรวจสอบลมยางรถอย่างสม่ำเสมอ

สาเหตุหลักๆ สำหรับหลายๆคนที่ทำให้การขับขี่นั้นกินน้ำมันเกินความจำเป็น บอกได้เลยว่ามาจากลมยางที่อ่อนมากเกินไป เพราะหากลมยางอ่อนจะทำให้เกิดการเสียดทานระหว่างตัวยางกับพื้นถนน ทำให้เครื่องยนต์รับภาระในการหมุนล้อเพิ่มขึ้นโดยไม่จำเป็น เป็นสาเหตุของการเผาผลาญน้ำมันที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ หรือหากลมยางรถแข็งไป ก็จะทำให้รถยึดเกาะถนนได้ไม่ดี เสี่ยงต่ออุบัติเหตุได้ ดังนั้นควรมีการหมั่นตรวจเช็คลมยางอย่าสม่ำเสมอ

5. เปลี่ยนน้ำมันเครื่องตามระยะเวลา

ควรมีการเปลี่ยนน้ำมันเครื่องอย่างเหมาะสม ตามระยะเวลาที่คู่มือการใช้งานได้บอกไว้ หรือหากเป็นช่วงเวลาที่ควรเปลี่ยนตามกำหนด ควรอยู่ที่ประมาณ 6 เดือน เพราะจะช่วยให้รักษาสภาพเครื่องยนต์เราให้มีประสิทธิภาพที่ดีได้ หากปล่อยไว้นานน้ำมันเครื่องจะมีการเสื่อมประสิทธิภาพลงตามเวลา และหากเครื่องยนต์ไม่ได้สตาร์ทเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องยนต์เกิดสนิม หรือมีคราบเขม่าตามมาได้นั่นเอง

6. ไม่บรรทุกของหนัก

การบรรทุกสัมภาระที่หนักเกินไป ก็เป็นอีกปัจจัยที่จะส่งผลให้เปลืองน้ำมันมากกว่าเดิมได้ เพราะ เมื่อรถยนต์ต้องบรรทุกน้ำหนักมากขึ้น เครื่องยนต์ก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นหากจำเป็นต้องมการบรรทุกของ ควรจัดวางของให้สมดุล ไม่วางของให้อยู่ด้านใดด้านหนึ่งมากเกินไป เและไม่ขับรถเร็วเกิน ควรวิ่งชิดเลนซ้าย ใช้ความเร็วสม่ำเสมอ ประมาณ 80 - 90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะช่วยประหยัดน้ำมันได้มากถึง 15 - 20 % เลยทีเดียว

7. เปิดแอร์ขณะขับขี่ ในอุณหภูมิที่เหมาะสม

รู้หรือไม่ว่าการที่คุณเปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ที่ต่ำเกินไป ก็จะส่งผลให้ใช้เชื้อเพลิงเกินความจำเป็นได้ ดังนั้นการเปิดเครื่องปรับอากาศในรถยนต์ ให้อยู่ในช่วงที่เหมาะสม ไม่เย็นจนเกินไป ก็จะสามารถลดการทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ และภาระของเครื่องยนต์ ที่ดึงพลังงานเชื้อเพลิงจากน้ำมันไปใช้มากถึง 10-20% เลยทีเดียว

8. หมั่นตรวจเช็คเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ

ควรหมั่นตรวจเช็คเครื่องยนต์อย่างสม่ำเสมอ และควรเปลี่ยนอะไหล่ตามกำหนดเมื่อถึงเวลา เพราะจะช่วยถนอมเครื่องยนต์ให้มีอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น รวมถึงยังช่วยในการประหยัดน้ำมันได้มากขึ้นด้วยเช่นกัน