top of page

ระบบ AI คืออะไร และมีประโยชน์อะไรกับธุรกิจในปัจจุบัน

หลายๆคนคงคุ้นชินหรือได้ยินคำว่า AI กันจนคุ้นหูแล้ว ยิ่งในช่วงนี้มีแอปพลิเคชันต่างๆที่มีระบบ AI ออกมาให้เพื่อนๆเล่นกันจนเป็นกระแส ยิ่งได้รับความนิยมไม่น้อย


แต่ในวันนี้เราจะพาไปเจาะลึกมีมุมว่า ระบบ AI นี้คืออะไร และมีประโยชน์อะไรกับธุรกิจในปัจจุบันอย่างไรบ้าง


ระบบ AI คืออะไร

  • AI (Artificial Intelligence) หรือที่เรียกว่าปัญญาประดิษฐ์ หมายถึง เทคโนโลยีด้านระบบการประมวลผลที่มีความสามารถในการจัดการข้อมูล ทั้งเรียนรู้ชุดคำสั่งและนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นของ AI ทำให้สามารถนำมาต่อยอดและพัฒนาธุรกิจ ทั้งในด้านการบริหารจัดการและการตลาดได้

รูปแบบการทำงานของ AI มีการเชื่อมโยงองค์ประกอบซ้อนกันหลายอย่างทั้ง Machine Learning และ Deep Learning โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • Machine Learning คือ การทำให้ระบบคอมพิวเตอร์เรียนรู้ด้วยตัวเอง โดยใช้ข้อมูลเป็นสื่อการเรียนรู้ ซึ่งจะเน้นไปที่การจดจำลักษณะเด่นเพื่อจำแนกความแตกต่างของข้อมูลเป็นหลัก

  • Deep Learning คือ การเรียนรู้ของระบบคอมพิวเตอร์ผ่านการจำลองรูปแบบการประมวลผลของสมองมนุษย์ โดยใช้โครงข่ายคล้ายกับเซลล์ประสาทในการกรองข้อมูลเชิงลึก ซึ่งสามารถคาดการณ์และตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลได้อีกด้วย


องค์ประกอบของ AI

องค์ประกอบหลักของ AI สามารถแบ่งออกได้หลายประเภทตามรูปแบบของกระบวนการนำ AI มาใช้งาน ยกตัวอย่างที่สำคัญเช่น

  1. Natural Language Processing: NLP คือ การทำให้คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจและประมวลผลภาษามนุษย์ ทั้งรูปแบบตัวอักษรและเสียงพูด โดยตัวอย่างการใช้ NLP ในธุรกิจ เช่น Siri ของ Apple

  2. Robotics คือ การออกแบบและพัฒนาเครื่องกลหรือหุ่นยนต์ให้สามารถตอบโจทย์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่างการใช้ Robotics ในธุรกิจ เช่น หุ่นยนต์ในสายการผลิตอุตสาหกรรม และ Drone สำหรับขนส่งสินค้า เป็นต้น

  3. Expert System คือ การสร้างความชำนาญเฉพาะทางให้กับระบบคอมพิวเตอร์ โดยป้อนข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญให้กับระบบ เพื่อให้ AI สามารถทำงานแทนผู้เชี่ยวชาญได้ เช่น ระบบซื้อขายหุ้น หรือ ระบบวินิจฉัยโรค เป็นต้น



ระบบ AI สำคัญกับธุรกิจปัจจุบันอย่างไร

  1. AI จะช่วยทำให้การทำ Personalized Marketing แม่นยำมากขึ้น : คุณสมบัติของ AI ในการประมวลผลและคาดการณ์ข้อมูล ทำให้การทำการตลาดแบบ Personalized Marketing นั้นแม่นยำมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น Startbucks นั้นเริ่มใช้ AI เพื่อเสนอส่วนลดให้กับสมาชิกผ่าน E-mail โดยสินค้าที่มีส่วนลดจะเป็นเมนูที่ใกล้เคียงกับเมนูที่ลูกค้าสั่งประจำนั่นเอง

  2. AI ตัวช่วยจัดการปัญหาคลังสินค้าได้ : สำหรับธุรกิจที่มีสินค้าในคลังจำนวนมาก อาจจะไม่รู้ว่าสินค้าไหนมีประสิทธิภาพ หรือสินค้าไหนที่ไม่เกิดประโยชน์ ดังนั้น AI จึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการจัดการปัญหาคลังสินค้า ด้วยระบบการวิเคราะห์ข้อมูล คลังสินค้านั่นเอง ตัวอย่างเช่น H&M ที่ประสบปัญหาด้านคลังสินค้า เนื่องจากพวกเขามักมีสินค้าที่ขายไม่ออกจนทำให้ต้องนำสินค้ามาลดราคาเพื่อระบายสินค้าออก ซึ่งจากการใช้ AI วิเคราะห์จึงพบว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สินค้าขายไม่ออก คือ พวกเขามีกลยุทธ์ในการวางสินค้าที่คล้ายคลึงกัน 4,288 สาขาทั่วโลก หลังจากทราบปัญหาดังกล่าว H&M จึงใช้ระบบ AI ในการทำ Localization ผ่านการ วิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าในแต่ละสาขา เพื่อจัดวางสินค้าให้ตรงตามความต้องลูกค้า

  3. AI ช่วยพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ลูกค้า : การวิจัยและพัฒนาสินค้า (Research and Development) เป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญที่ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน โดย AI เข้ามามีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลจากงานวิจัย เพื่อนำไปพัฒนาให้แม่นยำมากยิ่งขึ้น โดยหนึ่งในตัวอย่างการพัฒนาสินค้าด้วย AI ที่น่าสนใจมาจากแบรนด์ดังระดับโลกอย่าง Coca Cola โดย Coca Cola ใช้ AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกของลูกค้า และนำข้อมูลมาพัฒนาต่อยอดเป็น Cherry Sprite หนึ่งในผลิตภัณฑ์ของ Coca Cola โดยได้มาจากการวิเคราะห์ของ AI ที่วิเคราะห์พฤติกรรมของวัยรุ่นในการกดน้ำดื่ม ซึ่งลูกค้ามักจะผสมรสชาติน้ำดื่มเอง


เป็นอย่างไรกันบ้าง น่าทึ่งจริงๆเลยใช่ไหมหล่ะ เจ้าระบบ AI ซึ่งแน่นอนว่าในอนาคต AI จะต้องเข้ามามีบทบาทและประโยชน์ให้กับเรามากกว่านี้อีกอย่างแน่นอน


ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick

 

Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน


หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน


bottom of page