วันนี้ก็กลับมาพบกับบทความดีๆ ที่จะพาไปแนะนำให้รู้จักกับกลยุทธ์หรือเทคนิคที่จะสามารถนำปรับใช้กับองค์หรือธุรกิจของคุณได้
ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำในเรื่องของ เทคนิค FOMO Marketing จะพาไปดูกับว่าเทคนิคนี้คืออะไร และสามารถนำไปปรับใช้งานได้อย่างไร
FOMO Marketing คืออะไร?
FOMO ย่อมาจากคำเต็มก็คือ “Fear of Missing Out” ซึ่งหมายถึง การรู้สึกกลัวที่จะต้องเสียอะไรบางอย่างไป โดยเป็นหลักการทางจิตวิทยาที่เอามาใช้เป็นเทคนิคทางการตลาดอย่างหนึ่งนั่นเอง ซึ่งจะเน้นการใช้ประโยชน์จากความต้องการของผู้บริโภคต่อสินค้า ซึ่งเป็นข้อความประเภท Call to Action ให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อ ดีกว่ามานั่งเสียดายทีหลังที่ไม่ได้ซื้อ เป็นกลยุทธ์การตลาดจากทำให้ลูกค้าเกิดความรู้สึกว่า “ไม่อยากพลาดโอกาส” เช่น กลัวจะไม่ได้รับสิทธิพิเศษที่มีจำกัด ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น
เทคนิคทำ FOMO marketing ให้ปัง
สำหรับการนำเทคนิคแบบ FOMO Marketing ไปปรับใช้กับธุรกิจหรือบริการ ให้ออกมาปังหรือเห็นผลนั้น สามารถทำได้ตามวิธีดังต่อไปนี้
1. อิทธิผลจาก Influencers
บอกเลยว่าอิทธิพลทางความคิดในโลกโซเชียลสามารถกระตุ้นการตัดสินใจผู้ซื้อได้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการใช้ Influencers ใช้ได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งหลักๆเลยบนแพลตฟอร์มไม่ว่าเป็น Instagram Youtube นอกจากนี้ยังสามารถใช้คำพูดของ Influencers ในช่องทางอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น เอาไปใช้ในหน้า Landing Page หรือ Sales page และที่อื่น ๆ ที่ลูกค้าจะพบเห็น เป็นต้น
2. เงื่อนไขช่วงเวลานาทีทาง
การตั้งเงื่อนไขพิเศษในช่วงเวลาที่จำกัด จะช่วยกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า เพราะมีความกดดันจากเวลาที่ลดลงไปเรื่อยๆ โดยเรามักจะเห็นดีลที่ขึ้นเวลานับถอยหลังให้เห็นกันชัดๆ เช่น เช่น มอบส่วนลด 10% หากสั่งซื้อภายใน 24 ชั่วโมง หรือจัดส่งฟรีในเดือนนี้เท่านั้น เป็นต้น
3. รีวิวจากลูกค้า และข้อมูลทางวิชาการที่น่าเชื่อถือ
การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าหรือบริการ ก็ถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน หากเรานำการรีวิวจริงของลูกค้ามาใช้ก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ทำให้คนที่เข้ามาเห็นได้รับการันตีว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ของคุณดีจริง ๆ ก็จะเป็นตัวกระตุ้นหนึ่งให้เขาตัดสินใจซื้อ เพราะหากไม่ซื้ออาจพลาดสิ่งดีๆไปก็ได้ สิ่งนี้สามารถกระตุ้น FOMO ได้ดีทีเดียว
4. ให้ของขวัญหรือมอบส่วนลดพิเศษกับลูกค้าที่ซื้อก่อน
คนส่วนใหญ่ การได้รับของขวัญ ของฟรี ถือเป็นเรื่องที่ชื่นชอบกันอยู่แล้ว บอกเลยว่าวิธีนี้ยังเป็นกลยุทธ์ที่เอาไว้ดึงดูดลูกค้าได้ดีอยู่เสมอ ซึ่งส่วนใหญ่โปรโมชั่นเหล่านี้จะเห็นได้จากสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ ที่เพิ่งเปิดตัว อย่างเช่น ซื้อวันนี้จ่ายค่าเครื่องเพียง พร้อมได้รับของแถมสุดพรีเมียมมูลค่า XXX บาท ฟรี! สำหรับผู้ที่จองหรือซื้อก่อน 50 ท่านแรกเท่านั้น ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
5. สร้างโอกาสครั้งที่สองแบบพลาดไม่ได้
เมื่อลูกค้าพลาดโอกาสในครั้งแรกไปแล้ว แน่นอนว่าลูกค้ามีแนวโน้มที่จะตัดสินใจซื้อเร็วมากขึ้น เพราะถูกกระตุ้นจากการที่ไม่ได้รับในครั้งแรก และกลัวจะเสียโอกาสในครั้งนี้อีก แต่โปรโมชันของร้านแต่ละครั้ง ไม่ควรเหมือนกันจนเกินไป เพราะจะทำให้ลูกค้าที่ซื้อในครั้งแรกไม่รู้สึกสนใจ และความรู้สึกคุ้มค่าในการซื้อลดน้อยลง
6. ทำให้ลูกค้ารู้สึกถึงการเป็นคนพิเศษ
การได้รับความเอาใจใส่เป็นพิเศษ ถือเป็นเรื่องที่ทุกคนย่อมรู้สึกดีหากได้รับ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสิทธิโปรโมชั่นพิเศษเฉพาะสมาชิก หรือจัดโปรโมชั่นลูกค้าประจำของร้านในช่วงเวลาที่กำหนด ก็เป็นอีกทางที่จะช่วยเพิ่ม ยอดขายร้านอาหาร ได้เช่นกัน และเป็นการเจาะจงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายมากขึ้นอีกด้วย
และนี่ก็คือ เทคนิคและความหมายของ FOMO Marketing ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณนั้นปังมากขึ้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนๆที่ได้อ่านบทความนี้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick
Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน