7 ก.ค. 2565ยาว 1 นาที

5 วิธีบริหารการเงินฉบับมนุษย์เงินเดือน

รวมวิธีบริการจัดการรายได้ฉบับมนุษย์เงินเดือน เงินเดือนออกแล้วควรแบ่งเงินอย่างไรดี และเทคนิคการเก็บเงินที่จะช่วยให้กระเป๋าตังของคุณไม่สั่นคลอน

เมื่อเริ่มทำงานสิ่งสำคัญที่ควรจะต้องจัดการคือ การบริหารเงินเดือนที่ได้รับมา เพื่อให้ใช้จ่ายได้อย่างพอเพียงตลอดทั้งเดือน รวมถึงมีเงินออมไว้ใช้ในอนาคตด้วย แต่จะทำอย่างไร ลองมาดูเทคนิคบริหารการเงินฉบับมนุษย์เงินเดือนกันดีกว่า

แบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วนๆ

เมื่อได้รับเงินเดือนมา ก่อนอื่นควรแบ่งเงินเดือนออกเป็นส่วนๆ เพื่อให้จัดการกับเงินได้ง่ายขึ้น ซึ่งเราสามารถแบ่งส่วนของเงินเดือนได้หลายแบบ ตัวอย่างเช่น

แบ่งแบบ 50-30-20 คือ ค่าใช้จ่ายที่จำเป็น 50% ค่าใช้จ่ายส่วนตัว 30% และเงินออม 20%
แบ่งแบบ 80-20 คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ 80% และเงินออม 20%

ใช้แอปพลิเคชันช่วยบริหารค่าใช้จ่าย

ปัจจุบันนี้ธนาคารหลายแห่งได้เปิดให้บริการแอปพลิเคชันที่ช่วยลูกค้าจัดสรรค่าใช้จ่าย ทำรายรับรายจ่าย และช่วยให้เราจัดการกับการเงินได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่างเช่น MEKE ของธนาคารกสิกรไทย หรือ KEPT ของธนาคารกรุงศรี ที่มีฟีเจอร์ต่างๆ ที่ช่วยให้เราสามารถแยกค่าใช้จ่ายในบัญชีได้แบบไม่ต้องปะปนกัน รวมถึงสรุปยอดค่าใช้จ่าย และสามารถทำธุรกรรมได้แบบบัญชีธนาคารด้วย

ชำระหนี้เต็มยอดทุกเดือน

ไม่ว่าจะเป็นหนี้จากการผ่อนบ้าน รถ หรือบัตรเครติด ให้เราพยายามชำระหนี้ยอดเต็มทุกเดือน เพื่อลดภาระและจบหนี้ให้ไว ยิ่งเราเป็นหนี้นานเท่ากับเราจะต้องเสียดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น

ลองทำบัญชียอดหนี้ที่ต้องชำระในแต่ละเดือน และกำหนดค่าใช้จ่ายว่าเราสามารถเป็นหนี้ได้ไม่เกินเดือนละเท่าไหร่ โดยเฉพาะหนี้จากการใช้บัตรเครดิต

สร้าง Challenge การออมเงินเพิ่ม

นอกเหนือจากการแบ่งส่วนเงินออมแล้ว เรายังสามารถสร้าง Challenge ในการเก็บเงินเพิ่มได้อีกเล็กๆน้อยๆ หรือวางเป้าหมายเล็กๆสำหรับการออม เช่น ออมเงินสำหรับกินบุฟเฟ่ หรือไปเที่ยวต่างจังหวัด เป็นต้น

ตัวอย่างเช่น ไม่ใช้แบงค์ 50 หรือตั้งเป้าเงินออมค่าบุฟเฟ่ 1,000 บาทต่อเดือน นอกจากจะมีเงินออมเพิ่มแล้ว คุณยังสามารถใช้เงินส่วนนี้ในการใช้จ่ายสร้างความสุขตามที่ต้องการได้

ลงทุนเพื่อให้เงินงอกเงย

การลงทุนแม้จะมีความเสี่ยง แต่การไม่ลงทุกก็อาจจะมีความเสี่ยงเช่นกัน มีการลงทุนหลายหลายแบบที่ให้ผลตอบแทนได้ เช่น การซื้อพันธบัตร สลากออมทรัพย์ หรือการลงทุกในหุ้นระยะยาว