สำหรับหลายๆคน อาจจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับกลยุทธ์หรือเทคนิคดี ๆ ทางด้านการตลาดกันมาไม่มากก็น้อยพอสมควร
![](https://static.wixstatic.com/media/9866ef_bfb1fb84c4c744e3a6cb8bac6b357ba4~mv2.png/v1/fill/w_74,h_49,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/9866ef_bfb1fb84c4c744e3a6cb8bac6b357ba4~mv2.png)
โดยในวันนี้เราจะพาไปดูเกี่ยวกับ Collaborative marketing ซึ่งหลายๆคนอาจจะยังไม่รู้จักกันเท่าไหร่ พร้อมแล้วไปทำความรู้จักกันเลยดีกว่า
Collaborative marketing คืออะไร
Collaborative marketing หรือ Collaboration marketing ที่กลุ่มคนมักเรียกสั้นๆ กันว่า Collab Brand จนกลายเป็นเทรนด์หรือได้รับความนิยมด้านการตลาดรูปแบบใหม่นั้น หมายถึง การผนวกกำลังของธุรกิจที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกัน มีเป้าหมายเดียวกัน โดยเป้าหมายคือการอยากขยาย Brand Exposure ขยายฐานลูกค้า และรักษา Momentum ของแบรนด์ ในความเป็นจริงแล้วนั้น ไม่ใช่ว่าทุกแบรนด์สามารถ Collaborate กันได้ ต้องเป็นแบรนด์ที่มี Common Purpose ไม่ว่าจะเป็นความสนใจของกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ทั้งกลุ่มลูกค้าเดิมและกลุ่มลูกค้าใหม่ บุคลิกและเรื่องราวของแบรนด์ทั้งสองแบรนด์
![](https://static.wixstatic.com/media/9866ef_e2e82485c778479e998411314a521d0c~mv2.png/v1/fill/w_49,h_27,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/9866ef_e2e82485c778479e998411314a521d0c~mv2.png)
วัตถุประสงค์ในการทำ Collaborative marketing
สำหรับวัตถุประสงค์หลักๆ ในการทำ Collaborative marketing นั้น มีดังนี้
Penetration/ Reach : การขยายฐานลูกค้า การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของอีกแบรนด์ หรือ การดึงความสนใจให้ลอง ของกลุ่มลูกค้าใหม่ ของทั้งสองแบรนด์
Frequency/ Occasion : การขยายโอกาส หรือ ความถี่บ่อย ในการบริโภคสินค้า ของกลุ่มลูกค้าเดิม
Brand Image/ Momentum : การเสริมภาพลักษณ์ หรือการสร้างความเคลื่อนไหวให้กับแบรนด์
CRM : เป็นแคมเปญทางการตลาดเพื่อเป็นรางวัลให้กับลูกค้าปัจจุบัน
![](https://static.wixstatic.com/media/9866ef_006181a747a5471294e3fd4548bb7c03~mv2.png/v1/fill/w_74,h_49,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/9866ef_006181a747a5471294e3fd4548bb7c03~mv2.png)
ประโยชน์ของ Collaborative marketing
แน่นอนว่าการทำกลยุทธ์แบบ Collaborative marketing หากมีการวางแผนดีๆ จะส่งผลลัพธ์ที่คุ้มค่าอย่างแน่นอน ซึ่งผลลัพธ์หรือประโยชน์เด่นๆน่าสนใจ มีดังนี้
เป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ดีและมีประสิทธิภาพ หรืออาจเกิดการแลกเปลี่ยนกลุ่มลูกค้าของแต่ละแบรนด์ได้
เพิ่มโอกาสในการขายได้มากยิ่งขึ้น
สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างกลุ่มลูกค้ากับแบรนด์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
แบรนด์หรือธุรกิจของเราเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น
แบรนด์อยู่ในกระแสและเป็นที่พูดถึงอยู่ตลอดเวลา
ทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูทันสมัยมากขึ้น เพราะการทำ Collab นั้น เป็นการสื่อให้เห็นว่าแบรนด์ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยอยู่ตลอดเวลา
สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับผู้บริโภค เช่น ได้เห็นสินค้าในแบบที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เป็นต้น
ขอบคุณภาพประกอบ : Freepik
วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานด้วย Analytics จาก Flare Dash แอปพลิเคชันที่ช่วยประเมินการขับขี่และให้คะแนนผู้ขับ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน