แน่นอนว่าเทคโนโลยีนั้น มีความก้าวหน้าขึ้นทุกวัน ดังนั้นจึงส่งผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออาจเกิดเหตุการณ์บางอย่างขึ้นได้
ซึ่งวันนี้เราจะพาไปรู้จักคำว่า Digital Disruption ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงที่อาจจะทำให้เกิดการปรับตัวแต่อย่าพึ่งตกใจไป บทความนี้เราจะพาไปดูผลกระทบและการรับมือสำหรับ Digital Disruption
Digital Disruption คืออะไร?
Digital Disruption คือ การเปลี่ยนแปลงของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่เกิดจากเทคโนโลยีดิจิทัล รูปแบบธุรกิจที่เกิดขึ้นใหม่ แพลตฟอร์ม และนวัตกรรมต่างๆ ซึ่งส่งผลกระทบหลายภาคส่วน โดยเฉพาะธุรกิจเดิม ผลิตภัณฑ์เดิม ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงการทำงานและการใช้งานส่วนตัว และส่งผลกระทบมากที่สุดกับมูลค่าของผลิตภัณฑ์และบริการเดิมที่มีอยู่ ทำให้ธุรกิจเดิมต้องเปลี่ยนแปลงตามให้ทันเทคโนโลยี ไม่อย่างนั้นก็อาจจะต้องเลิกกิจการได้นั่นเอง
Digital Disruption ส่งผลต่อธุรกิจอย่างไร?
จะเกิดผลกระทบกับธุรกิจเก่าๆ เป็นหลัก ทั้งในด้านตัวผลิตภัณฑ์ บริการ รูปแบบบริหาร และการทำงานที่เปลี่ยนแปลงไป ถ้าปรับตัวไม่ทันแล้วละก็จะกลายเป็นผู้ตามในตลาดและหายไปในที่สุด แต่จริงๆแล้ว Digital Disruption ก็มีข้อดีสำหรับผู้ประกอบการที่สามารถคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ หรือ สามารถตอบสนองความต้องการใหม่ ๆ ได้ทำให้คุณมีโอกาสทางธุรกิจเพิ่มมากขึ้นนั่นเอง
ซึ่งสิ่งใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นเป็น Digital Disruption ส่งผลกระทบต่อสิ่งที่มีอยู่เดิมหรือไม่ ให้สังเกต 3 ข้อ ดังนี้
สิ่งใหม่ที่เกิดขึ้นแก้ปัญหาในแบบที่ไม่เคยแก้ได้มาก่อน เช่น บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชัน บริการชมภาพยนตร์บนสตรีมมิ่ง เป็นต้น
เกิดตลาดใหม่ อย่างการเจาะกลุ่มลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งที่อาจไม่เคยรู้ว่ามีความต้องการนี้มาก่อน เช่น แอพพลิเคชันหาคนร่วมรับประทานอาหารที่ร้านต่างๆ สำหรับคนที่ไม่มีเพื่อนไปกินอาหารที่เหมาะกับการกินหลายคน เช่น ชาบู หมูกระทะ
เกิดขึ้นด้วยพื้นฐานของดิจิทัล ถ้าเกิดขึ้นโดยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับดิจิทัลก็ไม่ถือว่าเป็น Digital Disruption
แล้วควรจะปรับตัวอย่างไร?
สำหรับ Digital Disruption รับมือและปรับตัวไม่ได้ยากเกินความสามารถ เพียงแค่คุณต้องปรับตัวให้ตามทันยุคสมัย โดยเป็นการใช้เทคโนโลยีมาปรับตัวนั่นเอง โดยข้อแนะนำมีดังนี้
ธุรกิจต้องมีการปรับตัวโดยอาศัยเทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น Cloud, Big Data, Robotics, Machine Learning, AI และอื่นๆ
ผู้นำองค์กรต้องมีวิสัยทัศน์ที่ดี และเข้าใจว่าต่อให้เป็นองค์กรใหญ่ ก็ใช่ว่าจะไม่แพ้องค์กรขนาดเล็กที่มีวิสัยทัศน์ดีกว่า ปรับตัวกับเทคโนโลยีได้ดีกว่า เพราะการทำธุรกิจในยุคปัจจุบัน อาศัยความเร็วเป็นสำคัญ
มีการปรับตัวตามผู้บริโภคมากขึ้น เพราะเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟนนั้นทำให้ผู้คนมีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ทุกที่ทุกเวลาทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป การรับข่าวสาร หาข้อมูล ก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น การโฆษณาที่เป็นการสื่อสารทางเดียวผ่านโทรทัศน์ วิทยุ จึงได้ผลยากกว่าสมัยก่อนนั่นเอง
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับเกร็ดความรู้ของ Digital Disruption ที่เรานำมาฝากกันในบทความนี้ หวังว่าเพื่อนๆจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในองค์กรได้ไม่มากก็น้อย
ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick
Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน
Comments