top of page

Material Requirement Planning คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

สวัสดีเพื่อนๆที่น่ารักทุกท่าน สำหรับในวันนี้บล็อกของเรา ก็จะมาแนะนำบทความและเทคนิคดีๆให้กับเพื่อนๆกันอีกแล้ว



ซึ่งในวันนี้จะพาไปดูกับคำว่า Material Requirement Planning หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง


Material Requirement Planning คืออะไร

  • ระบบ MRP หรือ Material Requirement Planning เป็นระบบที่ช่วยในการวางแผนความต้องการวัตถุดิบ คอยจัดการทั้งในส่วนของการดูแลที่มาที่ไปของวัตถุดิบ ตรวจสอบวัตถุดิบที่ต้องใช้ ไปจนถึงการสั่งซื้อเมื่อมีวัตถุดิบไม่พอ ซึ่งหน้าที่หลักของ MRP นั้นจะเฉพาะเจาะจงในส่วนของ Manufacturing หรือการผลิตในโรงงานมากกว่า โปรแกรมที่คล้ายๆกันอย่าง ERP (Enterprise Resource Planning) ที่มีความครอบคลุมกว่า กล่าวคือระบบ MRP นั้นเป็นส่วนนึงของระบบ ERP นั่นเอง

Material Requirement Planning ทำงานอย่างไร

หน้าที่หลักของระบบ MRP คือการวางแผนความต้องการและสร้างตารางการผลิตที่เหมาะสมให้กับองค์กร จัดสรรวัตถุดิบให้เพียงพอสำหรับการผลิตตามแผนงาน โดยมีหลักการสำคัญคือ การสั่งซื้อวัตถุดิบให้เพียงพอกับจำนวนและเวลาที่ต้องการ โดยระบบ MRP จะทำการรวบรวมคำสั่งซื้อที่ได้รับมาประมวลผล จากนั้นจึงจัดทำแผนความต้องการวัสดุประเภทต่างๆ ซึ่ง MRP จะสามารถทำงานและตอบโจทย์ได้ในเรื่องของ

  • ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบชนิดใด เมื่อไหร่

  • สั่งปริมาณเท่าไหร่ เพื่อให้การผลิตไม่ขาดไม่เกินไปกว่าจำนวนที่ผลิตจริง

  • เสร็จทันตามกำหนดระยะเวลาที่ถูกวางเอาไว้ในแผนงาน

  • ผูกกับระบบ HR เพื่อตรวจสอบว่าพนักงานคนใดดูแลไลน์การผลิตไหน

  • ส่งอีเมลแจ้งเตือนเมื่อมีการเปลี่ยนแผน หรือมีการเปลี่ยนพนักงาน


Material Requirement Planning มีประโยชน์อย่างไร

สำหรับ MRP ถือว่ามีส่วนช่วยในด้านของการผลิตเป็นอย่างมาก โดยประโยชน์ที่ได้รับหลักๆนั้น มีดังนี้


  1. ช่วยลดต้นทุนสินค้าได้มาก เนื่องจากมีการวางแผนการจัดการวัตถุดิบตามหลักสากล และรวมถึงการได้ผ่านการใช้งานจริงมาแล้วจากโรงงานที่นำไปใช้ ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจเป็นอย่างมาก

  2. ช่วยลดปัญหาที่เกิดจากการบริหารงาน กระบวนการ วัสดุ เครื่องจักร

  3. เป็นที่เก็บองค์ความรู้ขององค์กร เช่น มาตรฐานการผลิต (BOM) วิธีการบริหารจัดการคลังสินค้า วิธีสั่งซื้อ สั่งผลิต ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

  4. สามารถเรียกดูรายงานในการสรุปผลได้ ณ ตอนนั้นเลย แม้จะอยู่ต่างประเทศ

  5. ลดการสูญเสียวัตถุดิบ สินค้า ด้วยนโยบายการบริหารแบบ FIFO , L4L , EOQ, ROP

  6. สามารถทำงานได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สามารถที่จะตรวจสอบกระบวนการต่างๆ ได้ เหมาะสำหรับผู้บริหารที่ต้องการนำเสนอสินค้าให้แก่ลูกค้าปัจจุบัน หรือลูกค้าในอนาคตได้ ด้วยข้อมูลที่มีอยู่จริง

  7. กำหนดระยะเวลาการส่งสินค้าได้ถูกต้องมากยิ่งขึ้น ก่อนผลิตจริง จะได้ไม่ถูกปรับ และสูญเสียความน่าเชื่อถือเมื่อกำหนดเวลาแล้วส่งสินค้าไม่ทัน

  8. สามารถเทียบน้ำหนักของ Supplier กับทางองค์กรของตัวเองได้ว่า น้ำหนักแตกต่างกันจะมีผลต่อจำนวนคงคลังและราคาซื้อขายหรือไม่

Material Requirement Planning ถือเป็นส่วนสำคัญไม่น้อยที่ช่วยให้เรื่องของการผลิตให้มีความเหมาะสมกับองค์กรหรือธุรกิจของเรา ยังไงลองนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณเพื่อให้เกิดการผลิตที่ลงตัวได้


ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick

 

Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน


หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน



bottom of page