แน่นอนว่าหลายๆคนคุ้นเคยกับคำว่า SEO กันอยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร และมีความสำคัญในการนำมาใช้กับธุรกิจอย่างไร
แต่หากพูดถึงคำว่า SEM นั้น บางคนอาจจะไม่คุ้นชิน หรืออาจยังไม่เคยได้ยินกันมากนัก ดังนั้นวันนี้เราพาไปเจาะลึกรายละเอียดเกี่ยวกับคำนี้กัน
Search Engine Marketing (SEM) คืออะไร
SEM ย่อมาจากคำว่า Search Engine Marketing ซึ่งหมายถึง การทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) ผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเตอร์เน็ต หรือเว็บไซต์ Search Engine อย่าง Google หรือ Yahoo ที่ทำหน้าที่ค้นหาเว็บไซต์ให้ตรงกับคำที่คุณกำลังค้นหาอยู่ โดยการทำ SEM ที่ดีและมีประสิทธิภาพจะทำเว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ และอยู่ในหน้าแรกของการค้นหา ซึ่งจะมีโอกาสทำให้เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น และยังเพิ่มโอกาสในการคลิกเข้าดูเว็บไซต์มากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย
รูปแบบการทำ Search Engine Marketing (SEM)
สำหรับรูปแบบในการทำ SEM จะแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลักๆ ดังนี้
Pay Per Click หรือ PPC : คือการจ่ายเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณาบนเว็บ Search Engine ในพื้นที่ที่ถูกกำหนดไว้โดยเฉพาะ (Paid Search) ลองสังเกตเวลาค้นหาใน Google เมื่อผลการค้นหาแสดงขึ้น ชื่อเว็บไซต์ที่ปรากฏขึ้นในหน้าแรก อาจจะขึ้นเป็นอันดับแรกบนสุด หรืออันดับท้ายสุดในหน้าแรกก็ได้ และมีสัญลักษณ์ AD อยู่หน้าชื่อเว็บไซต์นั้น ๆ นั้นคือ การที่เว็บไซต์ซื้อ Paid Search นั่นเอง โดยที่เว็บไซต์จะต้องทำการประมูลราคา Keyword ที่คิดว่าคนจะค้นหาเพื่อให้เว็บไซต์ของตัวเองขึ้นอยู่ในอันดับแรกๆ ของการค้นหา และต้องจ่ายเงินค่าโฆษณาตามจำนวนคลิกที่มีคนกดเข้าเว็บไซต์ Pay Per Click หรือ PPC
SEO (Search Engine Optimization) : คือการทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้น ๆ ของการค้นหาผ่านการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ได้คุณภาพผ่านหลักเกณฑ์การให้คะแนนเว็บไซต์ของ Google BOT โดยที่ไม่ต้องเสียเงินเพื่อซื้อพื้นที่โฆษณา โดยมีเทคนิคการทำ SEO 3 รูปแบบดังนี้ On Page SEO คือ การแทรก Keyword ลงไปในส่วนต่าง ๆ ของเว็บ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะแทรก SEO ผ่านเมนู Blog ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับบทความต่าง ๆ โดยที่ปริมาณของ Keyword จะต้องมีในปริมาณที่พอดี ไม่มากไปหรือไม่น้อยไป บทความใน Blog ก็ต้องเป็นบทความที่มีเนื้อหามีคุณภาพ เขียนให้น่าอ่าน เนื้อหาอ่านง่าย สามารถตอบคำถาม Keyword ที่คนค้นหาได้ Off Page SEO คือ การลิงก์บทความหนึ่งกับอีกบทความหนึ่งที่มีความเกี่ยวข้องในเว็บไซต์ของคุณเอง หรือการให้เว็บไซต์อื่นใส่ลิงก์เว็บของคุณ เพื่อเป็นการเพิ่มโอกาสในการมองเห็นและกดคลิกเข้ามาชมเว็บไซต์ของคุณผ่านเว็บไซต์อื่น และยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์ของคุณเองได้อีกด้วย Technical SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ทางเทคนิคเพื่อให้คะแนนการประเมินจาก Google Bot สูงขึ้น เช่น การปรับให้หน้าเพจโหลดเร็วขึ้น ปรับ User Interface ให้แสดงผลบนหน้าจอมือถือหรือ Smartphone ให้เหมาะสมสวยงาม การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนเว็บและข้อมูลผู้เข้าชม เป็นต้น
ประโยชน์ในการทำ Search Engine Marketing (SEM)
ข้อดีของ Pay Per Click หรือ PPC : สามารถทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับต้นๆ ในการค้นหาได้ โดยที่ไม่ต้องเสียเวลามานั่งปรับแต่งเว็บไซต์หรือคอนเทนต์ในเว็บไซต์ให้ตรงตามเกณฑ์เว็บไซต์คุณภาพตามข้อกำหนดของ Google แถมพื้นที่แสดงเว็บไซต์ที่เป็น AD ยังเป็นตำแหน่งที่สามารถมองเห็นได้ง่าย สะดุดตา และน่าคลิกเข้าไปดูต่อ ถือว่าเป็นวิธีที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว
ข้อดีของ SEO (Search Engine Optimization) : ประหยัด ไม่ต้องเสียค่าโฆษณา เพียงแค่ทำเว็บไซต์และทำเนื้อหาของเว็บไซต์ให้ดีตรงตามมาตรฐานการประเมินของ Google Bot ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณได้คะแนนสูงและถูกแสดงผลการค้นหาในอันดับต้นๆ ได้
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับบทความแนะนำเกี่ยวกับ Search Engine Marketing (SEM) ที่เรานำมาฝากกัน หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับเพื่อนไม่มากก็น้อยนะคะ
ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick
Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน