Search Intent คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร

บทความของวันนี้นั้น ก็จะพาเพื่อนๆ ไปดูเทคนิคและคำศัพท์ด้านการตลาดดีๆกันอีกแล้ว

ซึ่งเราจะพาไปทำความรู้จักกับคำว่า Search Intent พาไปเจาะลึกถึงความหมายและประโยชน์ของคำนี้กัน ไปดูเลยดีกว่า!

Search Intent คืออะไร

• Search Intent คือ “ เจตนาของผู้ใช้” การหาจุดประสงค์การค้นหาของผู้ใช้งาน หรือเราเรียกกันง่ายๆ ก็คือการดูว่าคนมาเสริชกูเกิลคำนั้นไปเพื่ออะไร เช่น บางคนเสิร์ชหาข้อมูลใน Google เพื่อตอบคำถามเรื่องที่สงสัย บางคนอยากดูรูป บางคนอยากซื้อของ เป็นต้น ซึ่งหน้าที่ของคนที่ทำคอนเทนต์ เว็บไซต์​ และ SEO ก็คือการทำความเข้าใจ Search Intent นี้ว่าคนอยากค้นหาและพบกับอะไร แล้วทำคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์กับคนที่ใช้ Google ให้ได้มากที่สุดนั่นเอง

ประเภทของ Search Intent

Search Intent แบ่งออกได้เป็น 4 ประเภทหลักๆ ดังนี้

1. การค้นหาเพื่อหาข้อมูล : การเสิร์ชประเภทนี้เรียกว่าเป็นการหาข้อมูล หรือการตอบคำถามบางอย่าง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นส่วนใหญ่ของการค้นหาบน Google รวมไปถึงการค้นหาด้วยเสียง ที่มักจะใช้เป็นคำถามง่ายๆ เพื่อหาคำตอบได้อย่างรวดเร็ว ตัวอย่างเช่น การค้นหาคำว่า เซนทรัลเวิล์ดเปิดปิดกี่โมง? วิธีทำกะเพราะหมูกรอบ เป็นต้น สำหรับคำที่ Search Intent มีได้หลายแบบ และไม่แน่นอน ซึ่ง Google ก็จะเก็บข้อมูลและพัฒนาไปเรื่อยๆ เพื่อดูว่าสิ่งที่คนอยากเจอตอนเสิร์ชจริงๆ คืออะไร
   

2. การค้นหาเพื่อหาทางไปเว็บไซต์ : การเสิร์ชพวกที่คนจะไปเข้าเว็บใดเว็บหนึ่งที่รู้จักอยู่แล้ว แต่ว่าจำชื่อเว็บไม่ได้ หรือไม่อยากพิมพ์ URL ลงไปใน Address bar นั่นเอง เช่นคีย์เวิร์ดพวกที่มีชื่อแบรนด์​ อย่าง Facebook Youtube หรือบางทีเราอาจจะเสิร์ชอะไรที่มันเฉพาะเจาะจงอยู่แล้ว เช่น บทความ SEO เป็นต้น ซึ่งการติดอันดับสำหรับคำประเภทนี้ จะเหมาะและดีกับแบรนด์ซึ่งเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงอยู่แล้ว
   

3. การค้นหาตัวเลือกเพื่อตัดสินใจ : จะเป็นการค้นหาเพื่อการซื้อในอนาคต เรียกได้ว่ารู้ปัญหาหรือสิ่งที่ต้องการแล้ว แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้ออันไหนดี การค้นหาประเภทนี้ก็จะเน้นไปที่การดูข้อมูล รีวิว เปรียบเทียบสินค้าและบริการต่างๆ ค่ะ เช่น ร้านอาหารอร่อย โรงแรมบรรยากาศดี เป็นต้น การค้นหาแบบนี้ บางเว็บไซต์ก็เลือกที่จะทำรีวิวสินค้าตัวเองเทียบคู่แข่งเพื่อให้เห็นถึงจุดเด่นอย่างชัดเจน ซึ่งคนที่อ่านก็อาจจะมีโอกาสตัดสินใจซื้อกับเราได้ง่ายกว่า
   

4. การค้นหาเพื่อซื้อ : การค้นหาแบบนี้ คนที่เสิร์ชคือพร้อมที่จะมี action อยู่แล้ว เช่นการซื้อสินค้าหรือบริการ รวมไปถึง Action อย่างอื่นด้วย เช่น การติดตามบล็อก, Subcribe เป็นต้น ปัจจัยหลักของการเสิร์ชแบบนี้คือการเข้าใจว่า คนอาจจะไม่ได้ต้องการเปรียบเทียบตัวเลือก หรือหาข้อมูลเพิ่มแล้ว แต่ต้องการซื้อเลย ตัวอย่างคีย์เวิร์ด เช่น การสั่งจอง Iphone 14 เป็นต้น
   

ดังที่กล่าวมาข้างต้น จะเห็นได้ว่า Search Intent มีประโยชน์ค่อนข้างมาก ประเภทของ Search Intent ก็มีหลากหลาย ซึ่งเราสามารถนำข้อมูลเหล่านี้มาใช้ประโยชน์ โดยเฉพาะการทำ SEO และการวางแผนการทำคอนเทนต์นั่นเอง

ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick

---

Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน

ความแตกต่างของแพ็คเกจ Flare Dash ทั้ง 3 แบบ

หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน

คลิกที่นี่ เพื่อรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน