ไปทำความรู้จักกับคำว่า Passive Income กันเถอะ!

แน่นอนว่าการทำธรุกิจนั้น ย่อมมีเรื่องเงินหรือเรื่องรายได้เข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน ซึ่งหลายๆคนก็กำลังมองหาบทความดีๆ ที่เกี่ยวข้องและช่วยแนะนำในด้านนี้อยู่

ซึ่งในวันนี้บทความของเราก็จะมาแนะนำในส่วนที่เกี่ยวข้องเช่นกัน นั่นก็คือคำว่า Passive Income นั่นเอง งั้นเราไปทำความรู้คำนี้กันเลยดีกว่า

Passive Income คืออะไร

• Passive Income คือ รายได้ที่ไม่ต้องใช้เวลาทำงานเพื่อแลกเงิน แต่คุณจะสามารถได้รับผลตอบแทนจากการเป็นเจ้าของทรัพย์สินใดสิ่งหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น การเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์เพื่อปล่อยเช่า หรือการลงทุนในทรัพย์สินทางการเงิน ไม่ว่าจะเป็น หุ้น กองทุน พันธบัตร เป็นต้น โดย Passive Income นี้จะมีความแตกต่างกับคำว่า Active Incom ซึ่งเป็นรายได้ที่ได้รับจากการให้บริการ ซึ่งจะอยู่ในรูปแบบของ ค่าจ้าง เงินเดือน ค่าคอมมิชชั่น ทิป หรือกล่าวง่ายๆ ว่าเป็นรายได้ที่มาจากการทำงาน หรือการประกอบอาชีพนั่นเอง

ช่องทางสร้าง Passive Income ผ่านการลงทุน มีอะไรบ้าง

สำหรับช่องทางหรือวิธีในการสร้าง Passive Income นั้นมีได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งเราจะมาแนะวิธีหลักๆในการลงทุน เพื่อสร้าง Passive Income ได้ ดังนี้

• ฝากเงินในธนาคาร : การฝากเงินในบัญชีธนาคารถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการสร้าง Passive Income แม้ว่าปัจจุบันมีบัญชีเงินฝากแบบดิจิทัลที่อัตราดอกเบี้ยจะสูงกว่าบัญชีเงินฝากออมทรัพย์นิดหน่อย โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ประมาณ 1.10% – 2.00% แต่อัตราผลตอบแทนก็ค่อนข้างต่ำ
  

• ซื้อประกันออมทรัพย์ หรือ ประกันสะสมทรัพย์ : ประกันสะสมทรัพย์ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการฝึกวินัยการออมระยะยาว ที่นอกจากจะได้รับผลตอบแทนจากเงินคืนแล้ว ยังได้รับการคุ้มครองชีวิตด้วย
  

• ลงทุนในตราสารหนี้ หรือ กองทุนรวมตราสารหนี้ : ตราสารหนี้เป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการสร้างกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง และยังให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่มากกว่าดอกเบี้ยเงินฝาก ซึ่งมีให้เราเลือกลงทุนทั้งพันธบัตรที่ออกโดยภาครัฐ และตราสารหนี้ที่ออกโดยภาคเอกชน โดยจะได้รับผลตอบแทนในรูปของ ดอกเบี้ย นั่นเอง
  

• ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ หรือ กองทุนอสังหาริมทรัพย์ : การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่ได้รับความนิยมไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็น การซื้อบ้าน คอนโด ทาวน์โฮม เพื่อปล่อยเช่า ซึ่งเจ้าของกรรมสิทธิ์อสังหาฯ ก็จะได้รับผลตอบแทนในรูปของค่าเช่า

• ลงทุนในหุ้น หรือ กองทุนรวมหุ้น : หุ้นเป็นสินทรัพย์ทางการเงินที่อยู่คู่ตลาดทุนมาอย่างยาวนาน ซึ่งนอกจากผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นที่เราจะได้รับในรูปของ ส่วนต่างราคา (Capital Gain) หรือเรียกง่าย ๆ ว่ากำไร นอกจากนี้เรายังสามารถคาดหวัง Passive Income จาก เงินปันผล (Dividend) ได้อีกด้วย

ข้อดีของ Passive Income

1. มีรายได้กลับมาอย่างต่อเนื่อง

2. สร้างผลกำไรให้คุณได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว

3. หากเลือกลงทุนในรูปแบบกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ ก็จะส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการขาดทุนต่ำด้วยเช่นกัน

4. สามารถคาดหวัง Passive Income จากเงินปันผลได้

5. เป็นการออมเงินและสร้างกำไรที่ได้ผลมากที่สุด

ข้อจำกัดของ Passive Income

1. หากยังไม่มีความชำนาญในการลงทุน ควรศึกษารูปแบบการลงทุนที่เราสนใจให้ดีเสียก่อน

2. Passive Income ที่ทำได้ง่ายและสร้างรายรับได้มาก ต้องแลกมาด้วยการลงทุนที่สูงเช่นกัน

3. การลงทุนในสินทรัพย์ในประเภทใดประเภทหนึ่งเพียงอย่างเดียว อาจมีความเสี่ยงและความผันผวนระหว่างการลงทุนได้

4. รายได้แบบ Passive income จะต้องใช้เวลาในการสร้างระบบจัดทำระบบต่างๆ รวมถึงต้องอัปเดตข้อมูลให้เป็นปัจจุบันอยู่เสมอ

5. รายได้แบบเสือนอนกินนั้น อาจจะต้องใช้เวลานานในช่วงแรกๆ

เห็นแล้วใช่ไหมว่า Passive Income นั้นมีให้เลือกลงทุนได้หลากหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่าทุกการลงทุนมีความเสี่ยง ก่อนที่จะเริ่มลงทุนก็ควรศึกษาและวางแผนการต่างๆ ให้ดีกันก่อนนะคะ

ขอบคุณภาพประกอบ : Freepick

---

Flare Dash แอปพลิเคชันบันทึกเวลาทำงานของพนักงาน และติดตามเส้นทางด้วย GPS ผ่านสมาร์ทโฟน

ความแตกต่างของแพ็คเกจ Flare Dash ทั้ง 3 แบบ

หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน

คลิกที่นี่ เพื่อรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน