เมื่อต้องเดินทางไกลผู้ใช้รถควรทำอย่างไรเพื่อให้เดินทางด้วยความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น เนื่องจากการเดินทางไกลนั้นต้องใช้ระยะเวลานาน ดังนั้น ผู้ขับขี่ควรเตรียมตัวเมื่อรู้ว่าต้องมีการเดินทางไกลอย่างรัดกุม
ควรทำอย่างไรเมื่อต้องมีการเดินทางไกล?
การขับรถระยะทางไกลอาจทำให้ร่างการเมื่อยล้า ผู้ขับขี่ควรมีการเตรียมตัวให้พร้อม
วางแผนเส้นทางการเดินทาง
ก่อนออกเดินทาง ควรวางแผน คำนวณระยะเวลา และประเมินการจราจรในช่วงนั้น สามารถใช้แผนที่หรือระบบนำทาง GPS เพื่อช่วยให้เราสามารถใช้เส้นทางได้ถูกต้อง รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้อย่าลืมตรวจสอบเส้นทางที่มีการก่อสร้างหรือปิดถนนซึ่งอาจทำให้การเดินทางล่าช้าลงไป
พักผ่อนให้เพียงพอ
การพักผ่อนให้เพียงพอเป็นสิ่งสำคัญก่อนเริ่มเดินทางไกลควรนอนหลับให้เต็มอิ่มก่อนการเดินทาง และในระหว่างเดินทางรู้สึกเหนื่อยและง่วงให้หยุดพักนอน
เตรียมของว่างและน้ำให้เพียงพอ
แม้จะเดินทางก็ควรดื่นน้ำให้เพียงพอ และควรเตรียมอาหารว่างเพื่อไว้ทางในช่วงระหว่างเดินทางด้วย การดื่มน้ำหรือทางของว่างช่วยให้ร่างกายสดชื่นและตื่นตัว ช่วยป้องกันอาการหลับใน
พักยืดเส้นยืดสาย
ควรหาจุดแวะพักระหว่างทาง เช่น ปั๊มน้ำมัน หรือจุดพักรถ เพื่อเข้าห้องน้ำหรือยืดเส้นยืดสาย การได้พักจากการขับรถบ้างสามารถช่วยให้คุณตื่นตัวและมีสมาธิกับการขับเพิ่มมากขึ้น
ใช้ระบบควบคุมความเร็วคงที่
หากรถของเรามีระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ ให้ใช้ระบบนี้ในการช่วยควบคุมความเร็วให้คงที่และช่วยรถความเมื่อยล้าของผู้ขับขี่ โดยสามารถใช้ระบบนี้ได้เมื่ออยู่ในถนนเส้นทางหลวงที่โล่งและยาว
หาสิ่งบันเทิงอยู่เสมอ
หาเพลลิสต์เพลงจังหวะสนุกๆ หรือรายการบรอดแคสที่ชื่นชอบเพื่อเปิดฟังในขณะเดินทาง ซึ่งจะช่วยให้เราจดจ่อกับการขับได้ดีขึ้น หรือเป็นการเปิดวิทยุในรถหรือพูดคุยกับผู้ร่วมทางก็ได้
ตื่นตัวและมีสมาธิอยู่เสมอ
หลีกเลี่ยงสิ่งรบกวนที่อาจทำให้คุณเสียสมาธิในขณะขับรถ เช่น การใช้โทรศัพท์มือถือ การรับประทางอาหาร (ยกเว้นน้ำ หรือพวกลูกอม)
การเตรียมตัวเมื่อต้องเดินทางไกล
ตรวจสอบยางรถยนต์
ตรวจสอบให้แน่ใจว่ายางรถยนต์ของคุณอยู่ในสภาพดี มีความลึกของดอกยางที่เพียงพอ ไม่มีความเสียหาย และเติมลมยางให้เพียงพอ ที่สำคัญควรมีล้ออะไหล่สำรองติดไปด้วยเสมอ
ตรวจสอบระดับของเหลวในรถ
ตรวจสอบระดับของเหลวที่จำเป็น เช่น น้ำมัน น้ำหล่อเย็น น้ำมันเกียร์ น้ำมันเบรก และน้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ หากพบว่ามีของเหลวใดที่ไม่เพียงพอก็ต้องเติมให้พร้อม และเมื่อพบว่าสกปรกหรือถึงหนดเปลี่ยนก็ควรเปลี่ยนให้เรียบร้อย
ตรวจสอบเบรกรถ
ตรวจสอบเบรกก่อนเดินทางว่าใช้งานได้ปกติหรือไม่ รวมถึงระบบไฟต่างๆ เช่น ไฟเลี้ยว และไฟฟ้าด้วย
ตรวจสอบแบตเตอรี่รถ
ตรวจสอบขั้วและสายเคเบิลของแบตเตอรี่ของว่ามีร่องรอยการกัดกร่อนหรือไม่ และตรวจสอบให้แน่ใจว่าแบตเตอรี่อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ดี
ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝน
ตรวจสอบที่ปัดน้ำฝนว่าอยู่ในสภาพดีหรือไม่ และเช็คให้แน่ใจว่ากระจกรถสะอาดอยู่หรือไม่ หากพบว่าที่ปัดน้ำฝนมีปัญหาให้เปลี่ยนก่อนออกเดินทาง
ตรวจสอบเครื่องปรับอากาศ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าระบบปรับอากาศและระบบทำความร้อนทำงานอย่างถูกต้อง เครื่องปรับอากาศจะช่วยลดอุณหภูมิภายในรถเมื่ออากาศร้อน
สังเกตุรถยนต์อยู่เสมอ
ในระหว่างการเดินทาง คอยสังเกตแผงหน้าปัดของคุณว่ามีไฟเตือนหรือสัญญาณของปัญหา เช่น เสียงหรือกลิ่นแปลกๆ หากมีสิ่งใดผิดปกติ ให้รีบซ่อมหรือหาช่างโดยเร็วที่สุด
ภาพประกอบจาก : Freepik
วิเคราะห์พฤติกรรมการขับขี่ของพนักงานด้วย Analytics จาก Flare Dash แอปพลิเคชันที่ช่วยประเมินการขับขี่และให้คะแนนผู้ขับ ยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยให้กับองค์กรของคุณ
หากสนใจ คลิกที่ลิงค์ด้านล่างเพื่อติดต่อเราพร้อมรับสิทธิทดลองฟรี 14 วัน