PaaS ย่อมาจาก Platform as a Service เป็นการบริการเกี่ยวกับการใช้งานเครื่องมือฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ต่างๆผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยจะนิยมสำหรับ Developer ที่ใช้งานพัฒนาแอปพลิเคชัน เพราะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่างๆให้กับพักพัฒนาค่อนข้างครบถ้วนแถมพนักพัฒนาไม่ต้องกังวลในเรื่องของการจัดเก็บข้อมูลต่างๆอีกด้วยทำให้บริษัทช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายหากต้องทำการซื้ออุปกรณ์สำหรับใช้งานเอง และยังทำให้ผู้พัฒนาสามารถโฟกัสกับการพัฒนาแอปพลิเคชันได้อย่างเต็มที่อีกด้วยโดยบริการนี้ส่วนใหญ่จะนิยมในบริษัทที่เป็น Startup
จุดเด่นของ PaaS !
1. ใช้งานได้หลากหลาย
ผู้พัฒนาสามารถเข้าใช้งานได้บนอุปกรณ์ที่หลากหลายตามความต้องการ
2. สามารถเข้าถึงข้อมูลการทำงานได้ตลอดเวลา
เนื่องจากข้อมูลทั้งหมดจะถูกเก็บไว้ในระบบ Cloud ทำให้ผู้พัฒนาสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อทำงานต่อได้ง่ายขึ้น
3. ค่าใช้จ่าย
เนื่องจากอุปกรณ์ IT มีราคาที่สูงทำให้การใช้บริการ PaaS จะช่วยประหยัดค่าใช่จ่ายให้บริษัทแถมยังช่วยให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสกับการพัฒนาแอปพลิเคชันได้เพราะไม่ต้องมาคอยดูแล ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์
4.ตัวช่วยในการใช้งาน
การเช่าบริการ PaaS จะมีเครื่องมือในการจัดการและพัฒนาแอปพลิเคชันด้วยซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาแก่นักพัฒนาแอปพลิเคชัน
5. สามารถใช้งานแบบไฮบริดคลาวด์ (Hybrid Cloud)
ไฮบริดคลาวด์ คือ โครงสร้างพื้นฐานของระบบ Private Cloud และ Public Cloud ที่ถูกนำมาใช้ร่วมกันซึ่งจะช่วยเพิ่มความยิดหยุ่นในการจัดการได้มากยิ่งขึ้น โดย Private Cloud จะเหมาะกับการเก็บข้อมูลสำคัญของผู้ใช้งาน ซึ่งนิยมใช้ในซอฟต์แวร์บัญชีเงินเดือน (Payroll Software) และใช้ระบบคลาวด์สาธารณะ (Public Cloud) สำหรับแชร์ข้อมูลข่าวสารๆต่างๆในแอปพลิเคชัน เป็นต้น
จุดด้อยของ PaaS !
1. ค่าใช้จ่าย
ถึงค่าใช้จ่ายจะถูกกว่าการซื้ออุปกรณ์มาใช้งานเองแต่ก็ต้องยอมรับว่าค่าใช่จ่ายในการเช่าบริการ PaaS ก็ถือว่าแพงอยู่ดีฉะนั้นควรตัดสินใจวางแผนในการเช่าบริการให้ดีฃ
2. มีข้อจำกัดในการใช้งาน
เนื่องจากรูปแบบของ Platform และเครื่องมือส่วนช่วยเหลืออาจมีไม่ครบทุกอย่างทำให้ไม่สามารถควบคุมโครงสร้างและระบบหลังบ้านได้ทั้งหมด และมีฮาร์ดแวร์ให้เลือกใช้งานน้อยกว่าเมื่อเทียบกับ IaaS
บทความอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
SaaS คืออะไร ย่อมาจากอะไร? IaaS คืออะไร ย่อมาจากอะไร? DaaS คืออะไร ย่อมาจากอะไร? On-Premise กับ On-Cloud คืออะไร ?